- การตรวจจำนวนแบคทีเรียทั้งหมด (Total Plate Count)
ต้องไม่เกิน 500 โคโลนี/มล.
- โคลิฟอร์มต่อ 100 ลบ.ซม.
(NPN) ต้องไม่เกิน 2.2
เนื่องจากแบคทีเรียที่เล็กที่สุดมีขนาด 0.2 ไมครอน เครื่องกรองในท้องตลาดเดิม เช่น กรองเซรามิคมีประสิทธิภาพเพียง 0.5 ไมครอน ไม่สามารถกรองแบคทีเรียได้ทั้งหมด จึงได้นิยมนำเอาชุดกรองประสิทธิภาพสูง RO (Reverse Osmosis) ซึ่งกรองได้ละเอียดถึง 0.0001 ไมครอน ใช้ปั๊มแรงดันสูง 20-40 บาร์ นอกจากกรองเชื้อโรคแล้วยังกรองสารละลายโลหะ และแร่ธาตุในน้ำทั้งหมด จนเกิดข้อถกเถียงว่า น้ำบริสุทธิ์ RO เหมาะแก่การใช้เป็นน้ำดื่มหรือไม่
ปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาระบบไส้กรองเมมเบรน คล้าย RO แต่มีประสิทธิภาพการกรองที่ระดับ 0.1 ไมครอน สามารถกรองเชื้อแบคทีเรียได้ทั้งหมด โดยใช้แรงดันน้ำเพียง 1 บาร์ ไส้เมมเบรนกรองเชื้อโรคนี้สามารถทดแทนระบบ RO ได้เป็นอย่างดี
ในโรงงานผลิตน้ำดื่มจำหน่ายนิยมใช้ระบบฆ่าเชื้อโรคในน้ำดื่มด้วยโอโซน เนื่องจากเมื่อโอโซนละลายน้ำจะยังคงฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคได้ถึง 30 นาที จึงช่วยฆ่าเชื้อโรคในถังหรือภาชนะบรรจุได้ด้วย
การแยกเหล็กและแมงกานีสออกจากน้ำทำได้โดยการเติมอากาศ แล้วทิ้งให้
ตกตะกอน หรือกรองด้วยการสารกรอง ซีโอไลท์ที่มีคุณสมบัติในการดูดซับ
อิออนของเหล็กและแมงกานีส